ฟิล์มหดรัดสินค้า ตัวช่วยเพิ่มคุณภาพสินค้าที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม!
เคยสังเกตไหมว่าทำไมบางสินค้าที่มีลักษณะการใช้งานคล้ายกัน แต่ราคานั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นอกจากคุณภาพสินค้าแล้ว ภาพลักษณ์ภายนอกก็มีส่วนสำคัญในการเพิ่มมูลค่าเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเหล่าผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามตัวช่วยในการดูแลคุณภาพสินค้าอย่างฟิล์มหดรัดสินค้า เพื่อคงความสวยงาม และป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหาย
ฟิล์มหดรัดสินค้า คืออะไร?
ฟิล์มหดรัดสินค้าเป็นการผลิตจากเม็ดพลาสติก โดยผ่านกระบวนการเป่าความร้อนส่งผลให้ฟิล์มหดตัว ตามรูปลักษณ์ของสินค้านั้น ๆ ทั้งนี้วัตถุประสงค์หลักของการเลือกใช้ฟิล์มหดรัดสินค้าก็คือ ช่วยป้องกันสินค้าจากสิ่งสกปรก รอยขีดข่วน รวมทั้งความชื้น ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้สินค้าเสียหายได้
ประโยชน์ของฟิล์มหดรัดสินค้า
การคงสภาพของสินค้าให้ดูสวยงาม ดูสะอาดอยู่ตลอดเวลา สามารถทำได้โดยการใช้ฟิล์มหดรัดสินค้าในขั้นตอนการบรรจุภัณฑ์ เป็นวิธีการส่งเสริมการขายที่ประหยัดต้นทุน โดยประโยชน์ที่ได้จากการเลือกใช้ฟิล์มหดรัดสินค้า นอกจากสินค้าจะมีภาพลักษณ์ที่เป็นมาตรฐานมากขึ้น ในเรื่องการป้องกันความเสียหายก็ทำได้เช่นกัน เพราะฟิล์มหดรัดสินค้าช่วยป้องกันฝุ่นละออง ป้องกันความชื้น ป้องกันรอยขีดข่วนต่าง ๆ อันเนื่องมาจากการเคลื่อนย้าย
ฟิล์มหดรัดสินค้า มีกี่ประเภท?
ฟิล์มหดรัดสินค้าประกอบไปด้วย 3 ประเภท ได้แก่ ฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด PVC (PVC Shrink Film), ฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด POF (Polyolefin Shrink Film) และฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด PE (PE Shrink Film) โดยทั้ง 3 ประเภทจะมีลักษณะเนื้อฟิล์มและการเลือกใช้งานกับสินค้าที่แตกต่างกันออกไป
1. ฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด PVC (PVC Shrink Film)
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการใช้ฟิล์มหดรัดสินค้า แต่กังวลในเรื่องของต้นทุน สามารถเลือกใช้ฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด PVC ได้ มีให้เลือกหลายรูปแบบ มีข้อจำจัดในเรื่องรูปลักษณ์สินค้าและรองรับสินค้าน้ำหนักเบา แต่มีข้อควรระวังในเรื่องการแพ็กสินค้าส่งออกต่างประเทศ จะไม่สามารถเลือกใช้ฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด PVC ได้ เพราะมีสารอันตรายต่อร่างกายอย่างสารก่อมะเร็ง ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนำมาเป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร
2. ฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด POF (Polyolefin Shrink Film)
สินค้าอุปโภค บริโภค เครื่องสำอาง สินค้าส่งออกต่างประเทศ นิยมเลือกใช้ฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด POF ด้วยคุณสมบัติที่ผลิตจากพลาสติกชนิดปลอดสารก่อมะเร็ง ไม่มีกลิ่น ไม่มีสารปนเปื้อน อีกทั้งยังมีความใส แวววาว นุ่มเหนียว ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์สินค้า และช่วยป้องกันความชื้น ฝุ่นละออง สิ่งปนเปื้อนได้ดีอีกด้วย ที่สำคัญเป็นฟิล์มหดรักษ์โลก สามารถนำมารีไซเคิลใช้งานได้อีกครั้ง
3. ฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด PE (PE Shrink Film)
ฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด PE จะมีลักษณะเด่นในเรื่องความเหนียวและความทนทาน เหมาะสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักที่มาก ยกตัวอย่างเช่น แพ็กน้ำอัดลม แพ็กน้ำดื่ม แพ็กอาหารกระป๋อง หรือแพ็กสินค้าเพื่อเก็บรักษาในระยะเวลาที่นาน ถึงแม้ว่าจะเป็นฟิล์มหดที่เหมาะในการขนส่ง สามารถใช้กับสินค้าส่งออกต่างประเทศได้เช่นเดียวกับฟิล์มหดรัดสินค้า ชนิด POF เพราะไม่มีสารที่ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย
สรุปเรื่องฟิล์มหดรัดสินค้า
ฟิล์มหดรัดสินค้า ที่ใครหลาย ๆ คนอาจมองว่าเป็นสินค้าที่ใช้แล้วทิ้ง แต่อย่าลืมว่าการใส่ใจในจุดเล็ก ๆ นี้เอง สามารถส่งผลต่อภาพรวมสินค้าทั้งหมดได้ เพียงเพิ่มการลงทุนในการบรรจุภัณฑ์อีกเล็กน้อย เพื่อแลกกับคุณภาพสินค้า และภาพลักษณ์องค์กรธุรกิจที่ไม่อาจประเมินค่าได้ เมื่อรู้ถึงประโยชน์กันแล้ว เชื่อว่าเหล่าผู้ประกอบการคงไม่มองข้ามอีกแน่นอน เพิ่มยอดขายให้มากขึ้นโดยการใช้ฟิล์มหดรัดสินค้า POF เพื่อส่งสินค้าขายต่างประเทศ ช่องทางการขายในระดับ Global