บทความ

บรรจุภัณฑ์พลาสติก เป็นโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง มีต้นทุนต่ำ และมีความหลากหลาย สามารถใช้ได้กับสินค้าหลายประเภท ตั้งแต่อาหารและเครื่องดื่ม ไปจนถึงสินค้าในครัวเรือนและสินค้าอุตสาหกรรม โดยการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกจึงถือเป็นตัวเลือกที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม พลาสติกแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันในด้านคุณสมบัติและรูปแบบการใช้งาน การศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจความแตกต่างตรงนี้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการเลือกใช้แพ็คเกจจิ้งพลาสติกให้เหมาะสม ในบทความนี้ Flexipack จะพาไปรู้จักกับบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทต่าง ๆ และสำรวจว่าแต่ละประเภทมีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างไร บรรจุภัณฑ์พลาสติก คืออะไร? บรรจุภัณฑ์พลาสติก หรือ แพ็คเกจจิ้งพลาสติก คือ บรรจุภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างแพร่หลาย ทำหน้าที่สำคัญในส่วนของการปกป้อง รักษา และขนส่งสินค้า โดยบรรจุภัณฑ์พลาสติกมีความยืดหยุ่น แข็งแรงและมีราคาเริ่มต้นที่ไม่สูง จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่หลากหลายอุตสาหกรรมเลือกใช้  ตั้งแต่อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเภสัชกรรม คุณสมบัติที่โดดเด่นของบรรจุภัณ

สัญลักษณ์บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดมีความสำคัญ เพราะเครื่องหมายเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่เป็นการระบุสินค้า แต่ยังเป็นคู่มือที่บ่งบอกข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับจัดการ การเก็บรักษา และการกำจัดอย่างปลอดภัย  ไม่ว่าจะในฝ่ายของผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก หรือผู้บริโภค การทำความเข้าใจในเครื่องหมายบนบรรจุภัณฑ์ หรือสัญลักษณ์ที่อยู่ข้างบรรจุภัณฑ์และปฏิบัติตาม จะช่วยป้องกันความเสียหาย เพิ่มความปลอดภัย และยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในบทความนี้ Flexipack ขอพาคุณไปทำความรู้จักกับสัญลักษณ์บรรจุภัณฑ์ทั้งหมด เรียนรู้ถึงความหมาย และทำความเข้าใจว่า ทำไมเครื่องหมายบรรจุภัณฑ์เหล่านี้จึงสำคัญกับทุกฝ่ายใน Supply chain ทำความรู้จักกับ สัญลักษณ์บรรจุภัณฑ์ทั้งหมด เครื่องหมายบนบรรจุภัณฑ์ หรือ สัญลักษณ์บรรจุภัณฑ์ ก็คือ ไอคอนหรือภาพกราฟิกที่ปรากฏอยู่บนวัสดุบรรจุภัณฑ์ ที่ระบุข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการจัดการ การเก็บรักษา และการกำจัดที่ถูกวิธี โดยสัญลักษณ์บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดจะเป็นเครื่องหมายที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าใจความหมายได้โดยไม่ต้องพึ่งการใช้ข้อความประกอบ เราสามารถพบเห็นสัญลักษณ์บรรจุภัณ

พีวีซีและพีวีซี รีจิด เป็นวัสดุพลาสติกยอดนิยม 2 ประเภทที่ดูเหมือนใช้งานทดแทนกันได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความแตกต่างระหว่างวัสดุทั้งสองนี้ อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพ ความทนทาน ไปจนถึงคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ หรือผลิตภัณฑ์ของคุณได้เลย ใบนทความนี้ Flexipack ขอพาคุณไปเรียนรู้เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างพีวีซีและพีวีซี รีจิด ทั้งในด้านคุณสมบัติ ลักษณะการใช้งาน และข้อดีของทั้งพีวีซีและพีวีซี รีจิด เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้วัสดุได้เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ พีวีซี คืออะไร?  (Polyvinyl Chloride; PVC) เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ที่ถูกใช้อย่างแพร่หลาย มีความหลากหลายในการใช้งานตั้งแต่วัสดุก่อสร้างไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมายและราคาที่คุ้มค่าต่อการลงทุน พีวีซี รีจิด คืออะไร? พีวีซี รีจิด หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ Rigid PVC (RPVC) คือ พีวีซีประเภทหนึ่งที่ไม่มีสาร  plasticizers หรือสารที่เติมลงไปเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับตัวโพลีเมอร์ พีวีซี รีจิด จึงมีความแข็งและมีโครงสร้างที่แกร่งเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการวัสดุที่ทนทานและแข็งแรง ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างพ

ถุงไฮเดน หรือถุงพลาสติก HDPE และ ถุงพลาสติก LDPE ต่างกันอย่างไร? ในการเลือกพลาสติกฟิล์มสำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์ สิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้ ก็คือ ความแตกต่างระหว่าง พลาสติก LDPE (Low-Density Polyethylene) และ พลาสติก HDPE (High-Density Polyethylene หรือที่เรียกกันว่า ไฮเดน) โดยพลาสติกฟิล์มทั้ง 2 ชนิด ต่างเป็นที่นิยมและถูกใช้งานในหลากหลายวัตถุประสงค์ จนทำให้เกิดความเข้าใจว่า พลาสติกทั้งคู่สามารถใช้งานแทนกันได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถุงพลาสติก LDPE และ ถุงพลาสติก HDPE หรือถุงไฮเดน นั้นมีคุณสมบัติโดดเด่นบางอย่างที่แตกต่างกัน รวมถึงมีความเหมาะสมในการใช้งานที่ต่างกันไปด้วย ในบทความนี้ Flexipack จึงขอชวนคุณไปทำความรู้จักกับความแตกต่างระหว่างถุง LDPE และ ถุงไฮเดนหรือ HDPE แบบเจาะลึก ทั้งในด้านของลักษณะเฉพาะตัว คุณสมบัติเด่น และลักษณะการใช้งานที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลมากพอในการเลือกใช้พลาสติกฟิล์มที่สอดคล้องกับความต้องการของคุณที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์ การใช้ในงานภาคอุตสาหกรรม หรือในด้านอื่นๆ ก็ตาม ถุงพลาสติก LDPE คืออะไร? พลาสติก LDPE (Low-Density Polyethylene) เป็นพลาสติ

ถุงมุ้งคลุมพาเลท คือ โซลูชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องสินค้าที่ถูกจัดวางบนพาเลท ระหว่างการจัดเก็บและการขนส่ง โดยมีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้  ทำให้ถุงมุ้งคลุมพาเลทกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการรักษาคุณภาพและความสมบูรณ์ของสินค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะธุรกิจค้าปลีก ภาคการผลิต หรืออุตสาหกรรมโลจิสติกส์   ในบทความนี้ Flexipack ขอพาทุกคนไปดูประโยชน์อันหลากหลายของถุงมุ้งคลุมพาเลท และเรียนรู้ว่า บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และช่วยพัฒนากระบวนการต่าง ๆ ของธุรกิจได้อย่างไร  ไม่ว่าคุณจะต้องการปกป้องสินค้าจากปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม, เพิ่มประสิทธิภาพให้ Supply Chain, หรือยกระดับความปลอดภัยให้สินค้าของคุณ ถุงมุ้งคลุมพาเลทก็ถือเป็นตัวเลือกที่วางใจได้ และคุ้มราคา ถุงมุ้งคลุมพาเลท คืออะไร ? ถุงมุ้งคลุมพาเลท หรือที่เรียกกันว่า ถุงคลุมพาเลท, ถุงมุ้ง เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยและปกป้องสินค้าบนพาเลทในระหว่างการจัดเก็บและขนส่ง ถุงมุ้งคลุมพาเลท มีให้เลือกใช้หลายขนาด เพื่อให้พอดีกับขนาดของพาเลท และถูกใช้งานอย่างแพร่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก ภาคการผลิต และธุรกิจโลจิสติกส์

EVA Foam หรือ โฟม EVA คือ วัสดุกันกระแทกที่ได้รับความนิยมจากหลากหลายอุตสาหกรรมด้วยคุณสมบัติในการซับแรงกระแทกที่ดี ความยืดหยุ่น และ ความสามารถในการกันน้ำและสารเคมี EVA Foam จึงสามารถถูกนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายและเป็นตัวเลือกที่หลายอุตสาหกรรมไว้ไจ ในบทความนี้ Flexipack จะพาคุณไปทำความรู้จักกับคุณสมบัติโดดเด่นต่าง ๆ ของ EVA Foam พร้อมเจาะลึกข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์อันหลากหลายของวัสดุกันกระแทกตัวนี้ ตั้งแต่การใช้งานกับอุปกรณ์กีฬา ไปจนถึงกับชิ้นส่วนยานยนต์ และบรรจุภัณฑ์ทั่วไป EVA Foam คืออะไร? EVA Foam หรือ เอวีเอโฟม คือ โฟมที่ทำมาจากโพลีเมอร์ Ethylene Vinyl Acetate ซึ่งมีโครงสร้างแบบเซลล์ปิด (Closed-cell) วัสดุประเภทนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทานและความอเนกประสงค์ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่าวัสดุดั้งเดิมหลายชนิด และถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายเพราะคุณสมบัติที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ คุณสมบัติของ EVA Foam คืออะไร EVA หรือ Ethylene Vinyl Acetate foam เป็นวัสดุที่มีความโดดเด่นในหลาย ๆ ด้าน โดยคุณสมบัติที่ทำให้ EVA Foam กลายเป็นโฟมกันกระแทกที่มีประสิทธิภาพสูง มีดังนี้ โครงสร้างแบบเซล