Skip links

ไขข้อสงสัยสนิมเกิดขึ้นได้อย่างไร

สนิม ที่กัดกินเหล็กหรือโลหะต่างๆ น่าจะเป็นปัญหาที่มักจะสร้างความหนักใจให้แต่ละคนอยู่ไม่น้อยทีเดียว ถึงแม้ว่าในบางครั้งเราจะได้มีการทาสีที่มีสารป้องกันสนิมเอาไว้อย่างดีแล้ว แต่เมื่อนานเข้า สีที่ทาเอาไว้เกิดหลุดลอกสนิมก็จะเกิดขึ้นมาในทันที และหากไม่รีบจัดก่อนเสียเนิ่นๆ สนิมก็จะลามกัดกินวัสดุที่ว่านั้นไปเรื่อยๆ จนเริ่มเกิดการ
ผุกร่อนและหมดสภาพไปในที่สุด หากอยากแก้ไขปัญหาเหล่านี้ บทความนี้จะสามารถช่วยได้แน่นอน

สนิมคืออะไร

สนิม (Iron Oxide) กล่าวคือ สิ่งที่เกิดขึ้นบนเหล็กและโลหะ มีลักษณะคล้ายคราบสีน้ำตาลแดง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่ปัจจัยหลักที่พบได้คือ เมื่อเหล็กหรือโลหะมีการทำปฏิกิริยากับน้ำและความชื้นในอากาศ จะเป็นตัวนำที่ทำให้เกิดการไหลของประจุไฟฟ้าจนเกิดการออกซิเดชัน ซึ่งหากเหล็กหรือโลหะส่วนใดก็ตามมีสนิมเกิดขึ้น สนิมจะสามารถลามไปยังจุดอื่นๆ ต่อได้เรื่อยๆ

สนิมมีกี่ประเภท

หากมองผ่านๆ ลักษณะของสนิมที่เกิดขึ้นกับเหล็กหรือโลหะอาจมีความคล้ายคลึงกัน แต่ใช่ว่าสนิมที่เกิดขึ้นแต่ละที่จะเหมือนกัน 100% สนิมอาจมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ทำให้เกิดสนิม โดยสนิมแต่ละประเภทอาจสังเกตหรือแบ่งออกได้ตามสีดังนี้

1. สนิมแดง

สนิมแดง (Hydrated oxide Fe2O3•H2O) กล่าวคือ สนิม ที่มีปริมาณของออกซิเจนและน้ำสูง รวมถึงการปนเปื้อนของเกลือ จะเป็นลักษณะของสนิมหรือประเภทของสนิมที่มักพบได้ง่ายที่สุด และมักเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ส่งผลเป็นส่วนใหญ่

2. สนิมเหลือง

สนิมเหลือง (Iron oxide-hydroxide FeO(OH)•H2O) กล่าวคือ สนิม ที่มีปริมาณความชื้นสูง โดยสนิมประเภทนี้มักจะเห็นได้ชัดที่บริเวณข้อต่อของชิ้นส่วนต่างๆ บางครั้งอาจสังเกตเห็นการไหลหยดของน้ำสนิมได้

3. สนิมน้ำตาล

สนิมน้ำตาล (Oxide Fe2O3) กล่าวคือ สนิม ที่มีปริมาณของออกซิเจนสูงและมีความชื้นต่ำ เป็นสนิมที่สามารถเห็นได้จากการกระจายตามตัวของผิวโลหะ โดยส่วนมากแล้วจะเกิดจากการปนเปื้อนในกระบวนการผลิต

4. สนิมดำ

สนิมดำ (Iron (II)oxide – Fe3O4) กล่าวคือ สนิม ที่มีปริมาณของออกซิเจนต่ำและมีความชื้นต่ำ โดยสนิมประเภทนี้จะเกิดเป็นคราบสีดำอยู่ที่บริเวณผิวด้านนอกแต่ไม่เข้าไปถึงเนื้อเหล็กหรือโลหะด้านใน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการเก็บที่ไม่ถูกวิธี

4 วิธีป้องกันการเกิดสนิม

หากไม่ต้องการให้เกิดสนิมขึ้นกับสิ่งของต่างๆ ที่ทำมาจากเหล็กหรือโลหะ ก็สามารถที่ป้องกันการเกิดสนิมได้เช่นกัน โดยวิธีป้องกันการเกิดสนิมนั้นจะมี 4 วิธีด้วยกันดังนี้

1. ทำความสะอาด

ทำความสะอาดเหล็กหรือโลหะด้วยการใช้น้ำมันสำหรับป้องกันสนิม หากไม่ได้มีการนำเอามาใช้งานต่อแล้วจะต้องมีการเช็ดให้แห้งก่อนที่จะนำเอาไปจัดเก็บ

2. ชุบกันสนิม

โดยวิธีนี้สามารถทำได้โดยการจ้างช่างมืออาชีพมาจัดการให้ ซึ่งช่างจะมีเทคนิคและเทคโนโลยีเฉพาะเพื่อป้องกันการเกิด สนิม ทำให้วัสดุเหล็กหรือโลหะที่มีการชุบสามารถที่จะใช้ได้นาน

3. ใช้สารเคลือบกันสนิม

อีกหนึ่งวิธีที่สามารถป้องกันการเกิดสนิมได้ คือ การเคลือบกันสนิมด้วยสารเคลือบต่างๆ อาทิเช่น น้ำยาเคลือบกันสนิมใสและน้ำมันกันสนิม เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญหากต้องการให้มีประสิทธิภาพจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์เคมีเคลือบที่มีความเหมาะสมกับวัสดุของชิ้นงานนั้นๆ

4. กระตุ้นศักย์ไฟฟ้า

วิธีนี้จะเป็นวิธีที่นำเอาไฟฟ้าไปกระตุ้นเหล็กเพื่อลดการออกซิเดชัน และจะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น จะเป็นวิธีที่เหมาะกับโรงงานหรือภาคอุตสาหกรรมที่มีเหล็กหรือโลหะขนาดใหญ่โดยเฉพาะ

ป้องกันสนิมด้วยฟิล์มกันสนิม VCI PLASTIC

ถึงแม้ว่าสนิมจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหล็กหรือโลหะได้ง่ายอย่างที่ได้มีการกล่าวไปในข้างต้น แต่หากมีการป้องกันด้วย ฟิล์มกันสนิม ที่ผลิตมาจากโพลิเอธิลีน (Polyethylene) ที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเกิดสนิม จะสามารถช่วยป้องกันสนิมได้ 100% โดยฟิล์มกันสนิม VCI PLASTIC นี้ สามารถใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ รวมไปถึงภาคครัวเรือนได้ ซึ่ง VCI PLASTIC เป็นฟิล์มที่มีการพัฒนามาเพื่อทดแทนวิธีป้องกันการเกิดสนิมแบบเดิมๆ และเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานในทุกรูปแบบ

สรุปบทความ

วัสดุทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ไม่พ้นแม้แต่เหล็กหรือโลหะที่มีความแข็งแรงและทนทานก็ยังมีข้อเสียตรงที่หากไม่มีการทำความสะอาดหรือเก็บรักษาอย่างถูกต้อง ก็อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนของสนิมได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อรู้แล้วว่าสนิมมีกี่ประเภท มีปัจจัยในการเกิดอย่างไรบ้าง ก็จะสามารถป้องกันการเกิดสนิมหรือการกัดกร่อนได้ไม่ยาก รับรองว่าหลังจากอ่านบทความนี้จบ ข้าวของ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่างๆ ที่ทำมาจากเหล็กหรือโลหะของคุณจะมีอายุการใช้งานที่ยืนยาวแน่นอน