บรรจุภัณฑ์นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สินค้าดูสวยงาม เพิ่มราคา และยังช่วยป้องกันของภายในได้อีกด้วย ซึ่งบรรจุภัณฑ์ก็มีหลายประเภท แต่ประเภทหนึ่งที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษคือ ฟู้ดเกรด หรือบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการใส่อาหารหรือยาที่ส่งผลดีต่อผู้บริโภค และส่งผลดีต่อโลกใบนี้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ขอพาทุกคนไปรู้จักกับบรรจุภัณฑ์ประเภทฟู้ดเกรด มากขึ้นกันดีกว่า

ทำความรู้จักกับ ฟู้ดเกรด (Food Grade)

ฟู้ดเกรด คือ การจัดลำดับคุณภาพบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับอาหารและยา หรือก็คือเหมาะแก่การบริโภค โดยไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องในการผลิตบรรจุภัณฑ์ ทำให้ผู้ที่ซื้อสินค้าสามารถมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคอย่างแน่นอน

ฟู้ดเกรดสำคัญอย่างไรต่อการทำบรรจุภัณฑ์

1. การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์แบบฟู้ดเกรด เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ขายสินค้าใส่ใจเรื่องของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เมื่อมีการบริโภคแล้วจะปลอดภัย 100%
2. การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์แบบนี้จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์ว่าใส่ใจผู้บริโภค
3. บรรจุภัณฑ์แบบฟู้ดเกรด นับว่าเป็นการผลิตที่เน้นเรื่องของเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะบรรจุภัณฑ์เหล่านี้สามารถนำไปรีไซเคิลได้อีกด้วย

ฟู้ดเกรดเหมาะสำหรับธุรกิจประเภทใดบ้าง

สำหรับบรรจุภัณฑ์ฟู้ดเกรดจะเหมาะสำหรับธุรกิจและสินค้าหลายประเภท ที่ตัวผู้บริโภคต้องใช้ทาน ใช้ทาและอื่น ๆ อีกมากมายโดยสามารถสรุปได้ดังนี้

• อาหาร
• เครื่องดื่ม
• ยา
• อาหารเสริม
• เครื่องสำอาง

วัสดุฟู้ดเกรดที่นิยมในปัจจุบัน

1. กระดาษ

กระดาษนับเป็นสิ่งที่หลายๆ แบรนด์มักจะเลือกใช้ในการบรรจุภัณฑ์ โดยกระดาษที่เห็นได้ชัด คือ การเลือกใช้กระดาษคราฟท์ที่มีสีน้ำตาล ที่อาจนำมาทำเป็นถุงใส่อาหาร หรือใส่สินค้าที่ทำให้ดูเป็นการเพิ่มมูลค่า และที่สำคัญแสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี เพราะสามารถย่อยเองได้ตามธรรมชาติ

2. PP : (POLYPROPYLENE)

พอลิโพรพิลีน เป็นพลาสติกที่มีความปลอดภัย มีความเหนียว และสามารถขึ้นเป็นรูปทรงต่างๆ ได้ โดยบรรจุภัณฑ์แบบนี้มักจะเหมาะที่จะใช้บรรจุอาหาร ไม่ว่าจะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม หรือจะเป็นถ้วยชามพลาสติกพร้อมฝาปิดก็ได้เหมือนกัน โดยสามารถนำไปอุ่นที่ไมโครเวฟได้ แต่จะไม่เหมาะกับการอุ่นกับอาหารแช่แข็ง เบื้องต้นการเลือกแบบนี้ควรเป็นอาหารที่ปรุงเรียบร้อย ใส่ภาชนะและส่งเดลิเวอรี่มากกว่า

3. PET : (Polyethylene Terephthalate)

พอลิเอทิลีน เทเรฟทาเลต นับว่าเป็นพลาสติกที่มีคุณภาพที่มีความเหนียว ทนทาน ยืดหยุ่นต่อแรงกระแทก โดยพลาสติกนี้มักจะเหมาะสำหรับการบรรจุน้ำดื่ม เครื่องดื่มและภาชนะใส่อาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังเหมาะนำไปเคลือบทำเป็นกล่องอาหารได้เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นพลาสติกนี้ไม่ควรโดนความร้อน เพราะจะทำให้ละลายได้

4. HDPE : (High Density Polyethylene)

ไฮเดนซิตี้พอลิเอทิลีน นับว่าเป็นพลาสติกที่ทนทาน มีความยืดหยุ่นสูง ลดการกระแทกได้เป็นอย่างดี สามารถทนความร้อนได้ในระดับหนึ่ง และสามารถทนความเย็นได้ในระดับหนึ่ง ถ้าหากร้อนเกินไปพลาสติกชนิดนี้จะละลายได้ แต่ถ้าเย็นเกินไปพลาสติกนี้ก็อาจจะเปราะแตกหักได้ โดยส่วนมากเลยจะทำเป็นถุงใส่ของ และนำไปขึ้นรูปเป็นขวดแกลลอน

5. LDPE : (Low density polyethylene)

โลว์เดนซิตี้พอลิเอทิลีน นับว่ามีความทนทานเป็นอย่างมาก ทนต่อแรงฉีกขาดได้เป็นอย่างดี ไม่เปราะแตกหักง่าย  เหมาะกับการใช้ในของเย็น เช่น ถุงใส่ของหรือที่เรียกทั่วไปว่าถุงเย็น ถุงใส่อาหารแช่แข็ง ในส่วนของความร้อนจะทนได้น้อย แต่ไม่ใช่ว่าทนไม่ได้จนละลายทันทีเลย

สรุปแล้วฟู้ดเกรดนับว่าเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยแก่ผู้บริโภคมากที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องกลัวสารเคมีหรือสิ่งปนเปื้อนแต่อย่างไร และถ้าหากคุณกำลังมองหาแบรนด์ที่ให้บริการ ผลิตบรรจุภัณฑ์ ขอแนะนำให้มาใช้บริการกับทาง Flexi-Pack ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการ และสามารถใช้ได้กับธุรกิจ ด้วยภาพลักษณ์ที่สวยงามและน่าประทับใจ