มีปัจจัยต่าง ๆ มากมายที่สามารถส่งผลต่อการประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจการขายที่จำเป็นต้องสต๊อกของ เพราะไม่ใช่เพียงการเพิ่มยอดขายเท่านั้นที่จะทำให้ธุรกิจรอดในระยะยาว แต่การหาวิธีลดต้นทุนก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน อย่างการรู้จักวิธีจัดสต๊อกสินค้านั่นเอง
การจัดการสต๊อกสินค้า คืออะไร
การจัดการสต๊อกสินค้า คือ การควบคุม ดูแล และบริหารสินค้าในคลัง โดยครอบคลุมตั้งแต่การสั่งซื้อ การจัดเก็บ การขนย้าย จนถึงการวางจำหน่าย เป้าหมายหลักของการจัดการสต๊อก คือ การรักษาสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ลดปัญหาสินค้าขาดหรือตกค้าง และช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทำไมการจัดสต๊อกสินค้าถึงสำคัญ
การจัดการสต๊อกสินค้าอย่างเป็นระบบระเบียบจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร และช่วยให้ผู้ประกอบการบริหารสินค้าในคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดสต๊อกสินค้าที่ดีมีประโยชน์ดังนี้
1. ทำให้สามารถตรวจสอบและควบคุมปริมาณสินค้าที่เข้า-ออกได้
ความกังวลใจของผู้ประกอบการลำดับต้น ๆ ก็คือ การที่ไม่รู้จำนวนสต๊อกสินค้าที่แท้จริง เพราะถ้ามีเยอะไปก็จะขายไม่ทัน สินค้าเน่าเสียหรือหมดอายุได้ แต่ถ้ามีน้อยไปก็อาจตัดโอกาสในการขาย ส่งผลกระทบต่อยอดขายทันที
การมีระบบจัดการสต๊อกที่เป็นชัดเจนจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบปริมาณสินค้าและความเคลื่อนไหวของสต๊อกอยู่เสมอ ทำให้การวางแผนและการดำเนินงานภายในคลังสินค้ามีความแม่นยำมากขึ้น
2. ช่วยป้องกันสินค้าค้างสต๊อก หรือ หมดอายุ
การจัดการสต๊อกช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าสินค้าตัวไหนขายไม่ออก เพื่อนำมาวางแผนระบายสินค้าและลดปัญหาสินค้าค้างสต๊อก อีกทั้งยังช่วยให้สามารถติดตามวันหมดอายุของสินค้า และวางแผนในการจัดการระบายสินค้าก่อนได้ตามความเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในคลังสินค้า เช่น ค่าเช่า ค่ากำจัด/ขนย้ายขยะ หรือค่าจ้างพนักงาน
3. เพิ่มกำไรและคาดการณ์ยอดขายได้
การจัดสต๊อกสินค้าที่ดีช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการสั่งซื้อสินค้าได้ถูกจังหวะ ลดการขาดทุนจากสินค้าค้างสต๊อกหรือสินค้าขาดตลาด และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น
4. เพิ่มประสิทธิภาพในบริการลูกค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แบรนด์
ระบบสต๊อกที่ดีช่วยให้ธุรกิจมีสินค้าพร้อมส่ง ลดปัญหาสินค้าหมด และจัดหาสินค้าให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจและไว้วางใจในแบรนด์มากขึ้น
5 วิธีจัดสต๊อกสินค้า ที่ช่วยลดปัญหาขาดทุนในธุรกิจ
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น นอกจากทำการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำธุรกิจก็คือ การรู้วิธีลดต้นทุนต่าง ๆ เพื่อลดช่องว่างการเกิดปัญหาขาดทุน ซึ่งการจัดสต๊อกสินค้าที่ถูกต้องสามารถช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวม 5 วิธีจัดสต๊อกสินค้าที่นำไปประยุกต์ใช้ได้จริง โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. จัดสต๊อกสินค้าแบบ FIFO
FIFO หรือที่เรียกกันว่า First-In First-Out เป็นระบบการจัดสต๊อกสินค้าที่ได้รับความนิยมสูง โดยมีหลักการง่าย ๆ คือ ขายสินค้าที่ซื้อมาก่อน ระบบนี้จะทำให้รู้ว่าสินค้าไหนใกล้หมดอายุ หรือมีสินค้าคงค้าง จะได้หาวิธีขายสินค้าเหล่านั้นให้เร็วที่สุด
2. กำหนดจำนวนสินค้าคงคลัง
การทำธุรกิจ นอกจากจะแข่งกันด้วยคุณภาพ อีกหนึ่งปัจจัยที่ลูกค้าให้ความสำคัญเช่นกัน นั่นก็คือ ความรวดเร็วในการได้รับสินค้า ดังนั้นควรกำหนด Max และ Min ในการจัดสต๊อก เพื่อให้รู้จำนวนสินค้าคงเหลือ และรีบสั่งสินค้าล็อตใหม่ได้ทันท่วงที
3. แยกหมวดหมู่สินค้าเป็น SKU
วิธีการจัดสต๊อกสินค้า โดยการแยกหมวดหมู่สินค้าเป็น SKU มีประโยชน์มาก ๆ สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าหลายประเภท หลายขนาด การกำหนดหน่วยเป็น SKU จะช่วยลดความสับสนในการจัดส่งสินค้าได้
4. หมั่นนับสต๊อกสินค้าเป็นประจำ
ถึงแม้ว่าจะมีระบบจัดสต๊อกสินค้าแล้ว ก็ไม่ควรละเลยที่จะนับสต๊อกเอง อาจกำหนดเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับสต๊อกในระบบ การทำเช่นนี้จะสามารถช่วยลดช่องโหว่ของปัญหาสต๊อกคงค้าง ที่อาจนำมาสู่ปัญหาขาดทุนได้ในที่สุด
5. ใช้ระบบจัดสต๊อกสินค้าช่วย
สำหรับการเลือกใช้ระบบจัดสต๊อกสินค้า เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยหลังบ้าน โดยจะเหมาะกับธุรกิจที่ขายของหลายช่องทาง เมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้นช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ระบบก็จะทำการตัดจำนวนสต๊อกทันที ผู้ประกอบการจะรู้ถึงยอดสต๊อกที่แท้จริง และรู้ได้ว่าช่องทางไหนมีการซื้อขายเท่าไหร่
ต้องดูแลสินค้าคงคลังอย่างไรไม่ให้เสื่อมสภาพ
การสต๊อกสินค้าจำนวนมาก จะสามารถต่อรองราคา ทำให้ช่วยลดต้นทุนได้ แต่อย่าลืมว่าสินค้าที่ได้ทำการสต๊อกก็ควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เพื่อคงสภาพความสดใหม่ของสินค้า ไม่ให้ดูเก่าก่อนส่งต่อไปยังลูกค้า ดังนั้นวิธีการดูแลสินค้าคงคลังแบบง่าย ๆ ประหยัดต้นทุน แนะนำให้เลือกใช้ฟิล์มยืดพันพาเลทในการห่อสินค้า ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานและป้องกันฝุ่น จะทำให้สินค้าดูเหมือนใหม่อยู่เสมอเมื่อแกะฟิล์มยืดพันพาเลทออก แม้จะถูกเก็บมาเป็นเวลานาน
สรุปบทความ
หลักการทำธุรกิจเบื้องต้นประกอบด้วยสองอย่างด้วยกัน ได้แก่ เพิ่มยอดขายและลดต้นทุน การจัดสต๊อกทั้งห้าวิธีที่ได้แนะนำไป เหล่าผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้กับประเภทธุรกิจ ที่สำคัญเมื่อรู้วิธีการจัดสต๊อกสินค้าไม่ให้ขาดทุนแล้ว อย่าลืมที่จะคงคุณภาพสินค้าที่สต๊อกให้ดูสดใหม่อยู่เสมออย่างการป้องกันฝุ่นหรือสิ่งสกปรกโดยการห่อด้วยฟิล์มยืดพันพาเลทคุณภาพ นับว่าเป็นตัวเลือกที่ช่วยตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว
