ทำความรู้จัก “Flexible Packaging” บรรจุภัณฑ์อ่อนตัว ทำอะไรได้บ้าง
ในยุคปัจจุบันที่โลกหมุนไปด้วยความรวดเร็ว บรรจุภัณฑ์ (Packaging) นับเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาคุณภาพของสินค้า รับประกันความปลอดภัย และช่วยให้ความสะดวกกับผู้บริโภค และในบรรดาบรรจุภัณฑ์หลายชนิดที่มีอยู่ในท้องตลาด บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible packaging) ก็ถือตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด ด้วยความอเนกประสงค์ ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับคุณสมบัติอันหลากหลายของบรรจุภัณฑ์อ่อนตัว พร้อมค้นพบจุดเด่นที่ทำให้บรรจุภัณฑ์อ่อนตัวที่มีประโยชน์ทั้งกับฝ่ายผู้ผลิตและผู้บริโภค
บรรจุภัณฑ์อ่อนตัว (Flexible packaging) คืออะไร?
บรรจุภัณฑ์อ่อนตัว หรือ Flexible packaging คือ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุที่มีความยืดหยุ่น ทนทานต่อแรงดึง ความชื้นและการฉีกขาด วัสดุอย่าง ฟิล์มพลาสติก ฟอยล์อะลูมิเนียม และกระดาษ มักถูกใช้เพื่อประกอบเป็นสร้างโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์อ่อนตัว ซึ่งให้คุณสมบัติในการห่อหุ้มและป้องกัน ( Barrier properties) ที่ยอดเยี่ยม ให้ความทนทาน และยังนำไปใช้งานได้หลากหลาย
บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถของการป้องกันผลิตภัณฑ์จากสารปนเปื้อนและความเสียหายทางกายภาพ รวมไปถึงให้ผิวที่มีความมันเงา ไม่มีกลิ่น และสามารถพิมพ์ลายได้ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวยังช่วยยืดอายุการเก็บของสินค้าได้อีกด้วย
ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว
- ซองลามิเนต (Laminate bag) : ซองลามิเนต หรือ ถุงลามิเนต ทำวัสดุที่มีโครงสร้างหลายชั้น โดยทั่วไป มักทำจากพลาสติกและอลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความสามารถในการห่อหุ้มและป้องกันผลิตภัณฑ์ ซองลามินเนตยังมีคุณสมบัติในการกันความชื้นและออกซิเจน นิยมใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร อย่าง ขนมขบเคี้ยว กาแฟ และอาหารสัตว์
- ซองตั้ง (Standing-pounch) : ซองตั้ง เป็นซองบรรจุภัณฑ์ที่มีฐานแบบพับ ทำให้ซองตั้งเป็นทรงตรงได้เองเมื่อวางถูกไว้บนชั้น ซึ่งช่วยในเรื่องของการโชว์สินค้า ซองตั้งมัเหมาะกับการบรรบุผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว เช่น น้ำผลไม้ หรือ ซอส และยังสามารถใช้บรรจุของแห้ง อย่าง ซีเรียล หรือ ถั่ว ได้ด้วย
- รีทอร์ทเพาซ์ (Retort pounch) : รีทอร์ทเพาซ์ ถูกออกแบบมาให้ความทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงระหว่างกระบวนการการฆ่าเชื้อ (Sterilization) เหมาะสมกับการบรรจุอาหารพร้อมทาน ซุป และซอส
- ฉลากฟิล์มหด (Shrink sleeve) : ฉลากฟิล์มหด คือ ฟิล์มพลาสติกมีลายพิมพ์ที่จะถูกนำไปผ่านความร้อนเพื่อทำให้หดตัวรัดสินค้า นิยมใช้สำหรับการติดฉลากขวดและกระป๋อง เพื่อให้สามารถมองเห็นแบรนด์หรือข้อมูลผลิตภัณฑ์จากรอบด้าน
- บลิสเตอร์แพ็ก (Blister pack) : บลิสเตอร์แพ็ก คือ บรรจุภัณฑ์ที่ประกอบด้วยช่องพลาสติกขึ้นรูป และฟอยล์หรือแผ่นพลาสติกที่ใช้ปิดหลังช่อง บลิสเตอร์แพ็กถูกใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมยา ไม่ว่าจะเป็น ยาเม็ดหรือยาแคปซูล รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดเล็ก อย่าง แบตเตอรีและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
- ฟิล์มอ่อน (Flexible Films) : ฟิล์มอ่อน คือ ฟิล์มพลาสติกชนิดบาง ใช้สำหรับห่อหุ้มผลิตภัณฑ์ หรือนำไปทำเป็นถุงและเพาช์ นิยมใช้กับอาหารแช่แข็ง รวมถึงสินค้าในภาคอุตสาหกรรม
- โฟลว์แรป (Flow Wraps) : โฟลว์แรป คือ ม้วนฟิล์มที่ใช้สำหรับพันรอบผลิตภัณฑ์ ก่อนจะถูกซีปิดด้วยความร้อนหรือกาว นิยมใช้สำหรับห่อลูกอม บิสกิต และของขบเคี้ยวอื่น ๆ
- ซองสูญญากาศ หรือ ถุงซีล (Vacuum bag) : ถุงซีล คือ ถุงที่ถูกออกแบบมาให้รองรับการดูดอากาศออกเพื่อปิดผนึกโดยเฉพาะ โดยเมื่อดูดอากาศออกแล้ว จะเกิดเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มสิ่งของภายในอย่างแน่นหนา นิยมใช้กับของแช่แข็ง อย่าง ปูอัด ไส้กรอก ไอศกรีม และอาหารอื่น ๆ ที่เน่าเสียได้ง่าย
ประเภทของซองลามิเนต
ซองลามิเนตเป็นตัวเลือกยอดนิยมหลายอุตสาหกรรม ด้วยความทนทาน การใช้งานที่หลากหลาย และความสามารถในการรักษาความสดของสินค้าประเภทอาหาร ซองลามิเนตมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท และแต่ละประเภทก็ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน
เรียนรู้เกี่ยวกับซองลามิเนตประเภทต่าง ๆ รวมถึง คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของซองแต่ละประเภทได้จากข้อมูลด้านล่างนี้
ซองลามิเนตแบบแบน (Flat Laminated Pouches)
- ซองลามิเนตแบบแบน มีให้เลือกทั้งแบบ ซีล 2 ด้าน, ซีล 3 ด้าน, และ ซีล 4 ด้าน
- มีจำหน่ายในขนาดประหยัด ทั้งแบบซีลด้านล่างและซีลด้านข้าง
- นิยมใช้ทั้งในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องอุปโภค สามารถห่อหุ้มได้ทั้งเครื่องสำอาง สินค้าทางการแพทย์ และสินค้าเพื่อบริโภค อย่าง ข้าวสาร ขนมหวาน และน้ำตาล
ซองลามิเนตแบบพับ (Gusset Laminated Pouches)
- ประกอบด้วยวัสดุเสริม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและปริมาตรความจุ
- ซองแบบพับด้านล่างให้ฐานที่แข็งแรง ทำให้ซองสามารถตั้งได้
- ซองแบบพับด้านข้างให้ความจุที่มากขึ้น
- มักใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์ยา ยารักษาโรค และอาหารเสริม
ซองลามิเนตแบบตั้งได้ (Stand-Up Laminated Pounches)
- ซองสามารถตั้งได้ด้วยฐานที่มีการพับเป็นรูปตัว W หรือฐานแบนที่มีความมั่นคง
- ใช้งานได้หลากหลาย และสามารถใช้ได้ทั้งกับอาหารและสินค้าอุปโภค เช่น ขนมคบเคี้ยว อาหารสัตว์ ของเล่น และยา
ถุงลามิเนตแบบสเปาท์ (Spouted Laminated Pouches)
- ประกอบได้ด้วยหลอดและฝาในตัว ช่วยให้บรรจุหรือเทผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวออกได้ง่าย
- เป็นทางเลือกแทนการใช้ขวดพลาสติกหรือขวดแก้ว ใช้สำหรับบรรจุซอส น้ำมันประกอบอาหาร น้ำผลไม้ หรือสบู่เหลว
ซองลามิเนตแบบม้วน (Roll Laminated Pouches)
- มีให้เลือกใช้ในหลายขนาดและหลายรูปทรง เช่น ทรงสี่เหลี่ยม ทรงกลม หรือ ทรงขวด
- ม้วนลามิเนตสามารถถูกนำไปขึ้นรูปได้ด้วยการใช้เครื่องอัตโนมัติ
- นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
ซองลามิเนตแบบมีซิป (Laminated Pouches with Zippers)
- มีซิปอยู่ที่ปากถุง ทำให้เปิด-ปิดได้สะดวก
- ซิปช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์หล่นออกจากซอง ทำให้สะดวกในการใช้ และใช้ซ้ำได้
ซองลามิเนตแบบซีลตรงกลาง (Center Seal Laminated)
- มีการปิดซีลบริเวณกลางถุงด้านหน้า หรือ ด้านหลัง
- นิยมใช้บรรจุขนมขบเคี้ยว ลูกอม และช็อกโกแลต
ความแตกต่างระหว่างซองลามิเนตและซองพลาสติก
ซองลามิเนตและซองพลาสติกมีรูปร่างลักษณะคล้ายกัน และถูกใช้อย่างแพร่หลายพอ ๆ กัน แต่ซองทั้ง 2 ชนิดนั้นมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ตารางด้านล่างนี้ได้เปรียบเทียบคุณสมบัติของซองลามิเนตและซองพลาสติก และตอบคำถามที่ว่า ทำไมซองลามิเนตถึงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากกว่าซองพลาสติก
คุณสมบัติในการห่อหุ้มและปกป้องผลิตภัณฑ์
ซองลามิเนต | ซองพลาสติก |
ให้ Barrier properties ที่ดีกว่า เนื่องจากโครงสร้างวัสดุที่มีหลายชั้น ป้องกันผลิตภัณฑ์จากความชื้น ออกซิเจน และสานปนเปื้อนได้ดี | โครงสร้างวัสดุมีชั้นน้อยกว่า ทำให้ Barrier properties ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับซองลามิเนต |
ความหลากหลายในการใช้งาน
ซองลามิเนต | ซองพลาสติก |
สามารถบรรจุสินค้าได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแข็ง ของเหลว หรือของแช่แข็ง เนื่องด้วยโครงสร้างวัสดุที่แข็งแรง | ไม่เหมาะกับการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว และของแช่แข็ง เนื่องจากมีคุณสมบัติในการห่อหุ้มที่จำกัด และมีความทนทานต่ำ |
ความสามารถในการเก็บกลิ่น
ซองลามิเนต | ซองพลาสติก |
ปราศจากกลิ่น และป้องกันการเติบโตของแบคทีเรียได้ดี ช่วยให้มั่นใจถึงความสดสะอาดและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ | แบคทีเรียเติบโตได้ง่าย ทำให้อาจจะเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือการปนเปื้อน |
ความสะดวกในการขนย้าย และความคุ้มค่า
ทั้งซองพลาสติกและซองลามิเนตมีน้ำหนักเบาและสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการขนส่งได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ซองลามิเนตจะโดดเด่นกว่าในเรื่องของคุณสมบัติการปกป้องผลิตภัณฑ์ และความหลากหลายในการใช้งาน ซองลามิเนตจึงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากว่าซองพลาสติก
ในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว มีอยู่หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ และยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งทางฝ่ายผู้ผลิตและผู้บริโภค ด้วยคุณสมบัติและดีไซน์ที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว จึงยังคงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในหลาย ๆ อุตสาหกรรม
ข้อดีและข้อเสียของบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว
ถึงบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวจะมีความโดดเด่นมากมาย และถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ก็ยังมีข้อจำกัดที่ควรคำนึงถึงด้วย
ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อ่อนตัว
- มีความอเนกประสงค์ – บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวสามารถใช้บรรจุสินค้าได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแข็ง ของเหลว หรือแบบผง ความยืดหยุ่นในการใช้งานตรงนี้ทำให้บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวเหมาะสำหรับทั้งสินค้าที่เป็นอาหาร เครื่องดื่ม ยา เครื่องสำอาง และเครื่องอุปโภคบริโภค
- ช่วยยืดอายุการเก็บให้ยาวนานขึ้น – บรรจุภัณฑ์อ่อนตัวมี Barrier properties ที่ยอดเยี่ยม ช่วยป้องกันสินค้าจากความชื้น อากาศ และสารปนเปื้อนได้เป็นอย่างดี จึงช่วยยืดอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์ได้
- Custom หรือ ปรับเปลี่ยนได้ – ทั้งรูปร่าง ขนาด และดีไซน์ของบรรจุภัณฑ์อ่อนตัวล้วนแล้วแต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับแบรนด์ที่ต้องการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่มีโดดเด่นและดึงดูดสายตาเมื่อวางอยู่บนชั้น
- ใช้งานสะดวก – คุณสมบัติอย่าง ซิปที่เปิดปิดได้ หรือ ถุงที่มากับหลอดในตัว ช่วยเพิ่มความสะดวกและสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคได้
ข้อจำกัดของบรรจุภัณฑ์อ่อนตัว
- ปัญหาเรื่องการรีไซเคิล– ถึงบรรจุภัณฑ์อ่อนบางชนิดสามารถนำมารีไซเคิลได้ แต่กระบวนการการรีไซเคิลนั้นค่อนข้างซับซ้อนและทำได้ยาก เนื่องจากโครงสร้างของวัสดุที่มีหลายชั้น
- ความแข็งแรง – เมื่อเปรียบเทียบการบรรจุภัณฑ์แบบแข็งแล้ว บรรจุภัณฑ์อ่อนตัวจะมีความแข็งแรงน้อยกว่า ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์บางประเภท
- มุมมองของผู้บริโภค– ผู้บริโภคบางกลุ่มอาจมองว่า บรรจุภัณฑ์อ่อนตัว เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพด้อยกว่าบรรจุภัณฑ์แบบแข็ง ซึ่งอาจทำให้เกิดความคิดเห็นด้านลบต่อสินค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์
- คุณสมบัติการห่อหุ้มและป้องกันที่จำกัด – ถึงแม้บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวจะให้ Barrier properties ที่ดี แต่ก็ยังไม่เทียบเท่าคุณสมบัติของบรรจุภัณฑ์แบบแข็ง ซึ่งอาจจะเหมาะสมกับสินค้าหรือการใช้งานบางประเภทมากกว่า
- ค่าใช้จ่าย – การผลิตบรรจุภัณฑ์อ่อนตัวในปริมาณที่น้อย อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง เนื่องจากความซับซ้อนของตัววัสดุและกระบวนการการผลิต
บรรจุภัณฑ์อ่อนตัว เป็นตัวเลือกแห่งความอเนกประสงค์ ที่มีน้ำหนักเบา และสามารถถูก custom ให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย พร้อม Barrier properties ที่ช่วยการยืดอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ดี บรรจุภัณฑ์อ่อนตัวก็ยังคงมีข้อเสีย เช่น ปัญหาในเรื่องของการรีไซเคิล และมุมมองของผู้บริโภค สุดท้ายแล้ว บรรจุภัณฑ์ทุกชนิดก็ย่อมมีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกัน เพียงคุณทำความเข้าใจกับคุณสมบัติและข้อจำกัดของมัน คุณก็จะสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจและกลุ่มลูกค้าของคุณได้แล้ว
ให้ Flexipack ช่วยคุณ
การเลือกบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจอาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะกับปัจจุบัน ที่มีบรรจุภัณฑ์อยู่มากมายให้เลือก หากคุณยังมีความสับสนว่า บรรจุภัณฑ์แบบไหน จะเหมาะกับสินค้าของคุณที่สุด ผู้เชี่ยวชาญของ Flexipack ช่วยคุณได้
ติดต่อ Flexipack เพื่อขอคำปรึกษาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และให้เราช่วยตอบคำถาม ไขความสงสัย และช่วยคุณเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับธุรกิจของคุณ